ยิ้มได้...แค่วางแผนภาษีกับ UOB Smile Plan

  • UOB Smile PlanUOB Smile Plan

รายละเอียดการลงทุน เพื่อรับคืนภาษีให้เต็มสิทธิ์ กับกองทุนเด่น ปี 2567

เลือกลงทุนในกองทุน SSF / RMF / Thai ESG จาก 6 บลจ. ชั้นนำ
รับของสมนาคุณสูงสุด 1,600 บาท

ยอดเงินลงทุนสุทธิสะสมในกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) / กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) / กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) / ยอดสับเปลี่ยนเข้ากองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ของ UOBAM จาก บลจ.* อื่น เมื่อลงทุนทุกๆ 50,000 บาท ระหว่างวันที่ 2 มกราคม 2567 – 30 ธันวาคม 2567 รับของสมนาคุณเป็นหน่วยลงทุน มูลค่า 100 บาท** ในกองทุนเปิด ไทย แคชแมเนจเม้นท์ (TCMF) หรือ กองทุนเปิด กรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้น พลัส (KTSTPLUS-A) หรือ กองทุนเปิด กรุงศรีตราสารเงิน ชนิดสะสมมูลค่า(KFCASH-A) หรือกองทุนเปิด อเบอร์ดีน แคช ครีเอชั่น (ABCC) หรือ กองทุนเปิด ไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้น (SCBSFF) หรือ กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ พลัส ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป (K-FIXEDPLUS-A)

*เฉพาะหน่วยลงทุนของ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่มีอยู่ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2563

**นับยอดเงินลงทุนสุทธิสะสมในกองทุนที่ร่วมรายการของแต่ละ บลจ ทุกๆ 50,000 บาท จะได้รับของสมนาคุณเป็นหน่วยลงทุน มูลค่า 100 บาท (ตามเงื่อนไขของแต่ละ บลจ. ที่ได้ลงทุน) ตลอดระยะเวลาโครงการ

เงื่อนไขการรับของสมนาคุณ

  1. รายการส่งเสริมการขายนี้ให้สิทธิลูกค้าบุคคลธรรมดา (“ลูกค้า”) ที่เข้าลงทุนในกลุ่มกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) ภายใต้การบริหารจัดการของ บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด,บลจ. กรุงไทย จำกัด (มหาชน),บลจ. กรุงศรี จำกัด,บลจ. อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) จำกัด, บลจ. ไทยพาณิชย์ จำกัด และ/หรือ บลจ. กสิกรไทย จำกัด
  2. รวมถึง ยอดรายการสับเปลี่ยนเข้าของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทจัดการฯ เข้ามายังกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ของ บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด เฉพาะหน่วยลงทุนที่มีอยู่ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2563 ระหว่างช่วงเวลาส่งเสริมการขาย วันที่ 2 มกราคม 2567 – 30 ธันวาคม 2567 (หรือวันทำการสุดท้ายของเดือน ธันวาคม 2567)
  3. บริษัทจัดการฯ จะนับยอดเงินลงทุนสุทธิสะสม โดยพิจารณาจากลูกค้าที่ลงทุนผ่าน ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ตามเงื่อนไขที่ระบุใน ข้อ 1 กรณีที่ผู้ถือหน่วยลงทุนมีบัญชีผู้ถือหน่วยลงทุนภายใต้ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) มากกว่า 1 บัญชี โดยจะพิจารณาจากหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นหลัก บริษัทจัดการฯ จะนับยอดเงินลงทุนสุทธิจากทุกเลขที่บัญชีผู้ถือหน่วยลงทุนภายใต้ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) รวมกัน และมอบหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดไทยแคชแมเนจเม้นท์(TCMF) หรือ กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้นพลัส(KTSTPLUS-A) หรือ กองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงินชนิดสะสมมูลค่า(KFCASH-A) หรือ กองทุนเปิดอเบอร์ดีนแคชครีเอชั่น(ABCC) หรือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้น (SCBSFF) หรือ กองทุนเปิดเคตราสารหนี้พลัส ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป(K-FIXEDPLUS-A) เข้าบัญชีที่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มียอดเงินลงทุนสุทธิสูงสุด ในกรณีที่มียอดเงินลงทุนสุทธิ เท่ากันทุกบัญชีผู้ถือหน่วยลงทุน จะมอบหน่วยลงทุนตามข้างต้น เข้าในบัญชีที่มีการทำรายการซื้อล่าสุด
  4. ยอดเงินลงทุนสุทธิของผู้ถือหน่วยเพื่อรับสิทธิรับของสมนาคุณ ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) จะคำนวณจาก
    • ผลรวมของยอดซื้อและ/หรือยอดสับเปลี่ยนเข้าจากกองทุนอื่นๆ ที่ไม่ใช่กลุ่มกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) ภายใต้การบริหารจัดการ ของ บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด, บลจ. กรุงไทย จำกัด (มหาชน), บลจ. กรุงศรี จำกัด,บลจ. อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) จำกัด, บลจ. ไทยพาณิชย์ จำกัด และ/หรือ บลจ.กสิกรไทย จำกัด ซึ่งมียอดเงินลงทุนที่ไม่เกินสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ผู้ถือหน่วยลงทุนมีสิทธิได้รับตามเงื่อนไขกรมสรรพากรกำหนด
    • ยอดเงินลงทุนที่สับเปลี่ยนเข้ากองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และ/หรือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทจัดการอื่น โดยไม่จำกัดจำนวนเงินลงทุน
    • ยอดรายการสับเปลี่ยนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) จาก บลจ.อื่น เฉพาะหน่วยลงทุนที่มีอยู่ก่อน วันที่ 1 มกราคม 2563 และผู้ลงทุนไม่สามารถนำยอดเงินลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) มาลดหย่อนภาษีได้ โดยยอดรายการสับเปลี่ยนดังกล่าว ไม่จำกัดจำนวนเงินที่สับเปลี่ยน
    • ยอดรายการโอนจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund : PVD) เข้ากลุ่ม RMF ลบ ด้วยผลรวมของยอดขายคืนที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขทางภาษีที่กรมสรรพากรกำหนด และยอดสับเปลี่ยนออกไป บลจ.อื่น ในช่วงเวลาส่งเสริมการขาย โดยยอดรายการโอนดังกล่าว ไม่จำกัดจำนวนเงินโอน
  5. เงื่อนไขการรับสิทธิในของสมนาคุณที่เป็นไปตามที่แต่ละ บลจ. กำหนด เป็นดังนี้

    บลจ.

    ช่วงเวลาส่งเสริมการขาย

    คงยอดลงทุนสุทธิไว้จนถึง

    ได้รับหน่วยลงทุนเข้ากองทุน**

    ได้รับหน่วยลงทุนภายในวันที่

    บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด

    วันที่ 2 ม.ค. 2567 - 30 ธ.ค. 2567

    วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568

    กองทุนเปิด ไทย แคชแมเนจเม้นท์ (TCMF)

    วันที่ 30 เมษายน 2568

    บลจ. กรุงไทย จำกัด (มหาชน)

    วันที่ 2 ม.ค. 2567 - 30 ธ.ค. 2567

    วันที่ 30 เมษายน 2568

    กองทุนเปิด กรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้น พลัส (KTSTPLUS-A)

    วันที่ 30 มิถุนายน 2568

    บลจ. กรุงศรี จำกัด

    วันที่ 2 ม.ค. 2567 - 30 ธ.ค. 2567

    วันที่ 29 มีนาคม 2568

    กองทุนเปิด กรุงศรีตราสารเงิน ชนิดสะสมมูลค่า (KFCASH-A)

    วันที่ 30 เมษายน 2568

    บลจ. อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) จำกัด 

    วันที่ 2 ม.ค. 2567 - 30 ธ.ค. 2567

    วันที่ 29 มีนาคม 2568

    กองทุนเปิด อเบอร์ดีน แคช
    ครีเอชั่น (ABCC)

    วันที่ 30 เมษายน 2568

    บลจ. ไทยพาณิชย์ จำกัด 

     

    วันที่ 1 เม.ย. 2567 - 30 ธ.ค. 2567

    วันที่ 31 ธันวาคม 2568

    กองทุนเปิด ไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้น (SCBSFF)

    วันที่ 30 เมษายน 2568 

    บลจ. กสิกรไทย จำกัด  

    วันที่ 1 เม.ย. 2567 - 30 ธ.ค. 2567

    วันที่ 31 ธันวาคม 2568

    กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ พลัส ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป (K-FIXEDPLUS-A)

    วันที่ 30 เมษายน 2568

    **นับยอดเงินลงทุนสุทธิสะสมในกองทุนที่ร่วมรายการของแต่ละ บลจ ทุกๆ 50,000 บาท จะได้รับของสมนาคุณเป็นหน่วยลงทุน มูลค่า 100 บาท (ตามเงื่อนไขของแต่ละ บลจ. ที่ได้ลงทุน) ตลอดระยะเวลาโครงการ

  6. รายการส่งเสริมการขายนี้จัดทำขึ้นเพื่อส่งเสริมการขายสำหรับลูกค้าที่เปิดบัญชีซื้อขายหน่วยลงทุนกับธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) โดยรายการส่งเสริมการขายนี้ไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดหรือโอนให้ผู้อื่นได้หรือเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
  7. ผู้ลงทุนที่ได้รับสิทธิประโยชน์ในรายการส่งเสริมการขายนี้ จะไม่สามารถรับสิทธิประโยชน์ในรายการส่งเสริมการขายอื่นๆ ในช่วงเวลาเดียวกัน และ/หรือ ยอดเงินลงทุนเดียวกัน
  8. สนับสนุนของสมนาคุณโดย บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด, บลจ. กรุงไทย จำกัด (มหาชน), บลจ. กรุงศรี จำกัด, บลจ. อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) จำกัด, บลจ. ไทยพาณิชย์ จำกัด และ/หรือ บลจ. กสิกรไทย จำกัด

หมายเหตุ:

กองทุนเปิด ไทย แคชแมเนจเม้นท์ (TCMF) – ระดับความเสี่ยง 1
กองทุนมุ่งเน้นลงทุนในหรือมีไว้ซึ่ง ตราสารหนี้, เงินฝาก, ตราสารเทียบเท่าเงินฝาก (แต่ไม่รวมถึงเงินฝากอิสลาม) โดยการลงทุนในตราสารแห่งหนี้นั้น กองทุนจะลงทุนในตราสารทั้งภาครัฐ และ/หรือภาครัฐวิสาหกิจ ที่มีความั่นคงและมีสภาพคล่องสูงเป็นหลัก

กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้น พลัส (KTSTPLUS-A) – ระดับความเสี่ยง 4
กองทุนมีนโยบายที่เน้นลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินที่เสนอขายทั้งใน และ/หรือต่างประเทศ โดยจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ เงินฝากหรือตราสารเทียบเท่าเงินฝาก และ/หรือตราสารทางการเงิน ซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) และ/หรือหน่วยลงทุนของกองทุนที่มีนโยบายสอดคล้องกับกองทุนฯ โดยกองทุนอาจพิจารณานำเงินไปลงทุนในต่างประเทศได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายที่จะจัดการลงทุนเพื่อให้อายุดูเรชั่นเฉลี่ยของตราสารทั้งหมดของกองทุน (Portfolio Duration) ไม่เกิน 1 ปี โดยประมาณ

กองทุนเปิด กรุงศรีตราสารเงิน-สะสมมูลค่า (KFCASH-A) – ระดับความเสี่ยง 1
ลงทุนใน 1. ตราสารหนี้ภาครัฐไม่ต่ำกว่า 70% ของ NAV
2. ส่วนที่เหลือลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชน สถาบันการเงิน หรือเงินฝากธนาคาร - ตราสารข้างต้นมีอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้น 2 อันดับแรกหรือระยะยาวที่เทียบเคียงได้หรืออันดับความน่าเชื่อถือระยะยาว 3 อันดับแรกเว้นแต่เป็นตราสารภาครัฐ และมีอายุคงเหลือไม่เกิน 397 วัน นับแต่วันที่ลงทุน - กองทุนจะดำรงอายุถัวเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก (Portfolio Duration) ณ ขณะใดขณะหนึ่งไม่เกิน 92 วัน

กองทุนเปิด อเบอร์ดีน แคช ครีเอชั่น (ABCC) – ระดับความเสี่ยง 2
ลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินซึ่งสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนดให้กองทุนรวมตลาดเงินลงทุนได้ ทรัพย์สินทั้งหมดที่กองทุนลงทุนต้องมี portfolio duration ในขณะใด ๆ น้อยกว่าหรือเท่ากับ 92 วัน สำหรับเงินฝากและ ตราสารแห่งหนี้ที่กองทุนลงทุนจะมี credit rating อยู่ใน 2 อันดับแรกที่ได้มาจากการจัด credit rating ระยะสั้น หรือ credit rating อยู่ใน 3 อันดับแรกที่ได้มาจากการจัด credit rating ระยะยาว และมีกำหนดชำระเมื่อทวงถาม หรือจะครบกำหนดชำระคืนหรือมีอายุสัญญาไม่เกิน 397 วันนับตั้งแต่วันที่ลงทุนในทรัพย์สินหรือเข้าทำสัญญา

กองทุนเปิด ไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้น (SCBSFF) – ระดับความเสี่ยง 4
ลงทุนในตราสารแห่งหนี้และหรือเงินฝาก ทั้งตราสารแห่งหนี้และหรือเงินฝากระยะสั้นเพื่อสภาพคล่อง และตราสารแห่งหนี้และหรือเงินฝากเพื่อการลงทุน โดยการลงทุนในตราสารแห่งหนี้นั้นจะเน้นลงทุนในตั๋วแลกเงินและตั๋วสัญญาใช้เงิน ที่มีธนาคารพาณิชย์ หรือบริษัทเงินทุนรับรอง รับอาวัล หรือสลักหลังโอนประเภทมีสิทธิไล่เบี้ย และหุ้นกู้ระยะสั้นและระยะยาวตามกฎเกณฑ์ของคณะกรรมการ ก.ล.ต. และกองทุนรวมอาจมีการลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารที่เสนอขาย ในต่างประเทศโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพยสินสุทธิของกองทุนรวม

กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ พลัส ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป (K-FIXEDPLUS-A) – ระดับความเสี่ยง 4
กองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ ลงทุนในตราสารแห่งหนี้ภาครัฐและภาคเอกชน และเงินฝากทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยลงทุนในในต่างประเทศไม่กำหนดอัตราส่วน และมีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 90% ของมูลค่าเงินลงทุนต่างประเทศ

วิธีการรับชำระค่าซื้อหน่วยลงทุนของลูกค้า ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) เท่านั้น
ผู้ลงทุนสามารถชำระด้วยการหักเงินจากบัญชีเงินฝากธนาคารยูโอบี บัตรเครดิตธนาคารยูโอบี หรือเช็ค ระหว่างวันที่ 2 มกราคม 2567 – 30 ธันวาคม 2567 (หรือวันทำการสุดท้ายของเดือน ธันวาคม 2567) กรณีชำระเงินด้วยบัตรเครดิตธนาคารยูโอบี จะสามารถซื้อได้เฉพาะกองทุนของ บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด และจะไม่สามารถร่วมรายการผ่อนชำระ UOB i-Plan และไม่ได้รับคะแนนสะสม UOB Rewards Plus สำหรับการซื้อหน่วยลงทุนทุกประเภท เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบ กลต.

เปรียบเทียบกองทุนลดหย่อนภาษี

  SSF RMF Thai ESG
สิทธิในการลดหย่อนภาษี สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน
จำนวนเงินลดหย่อนภาษี สูงสุด 200,000 บาท และเมื่อรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท สูงสุด 500,000 บาท และเมื่อรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท ไม่รวมวงเงินกลุ่มเกษียณ*
นโยบายลงทุน ตามเงื่อนไขของโครงการ หุ้นและตราสารหนี้ไทยที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน
การถือครอง 10 ปีขึ้นไป นับจากวันที่ลงทุน 5 ปีขึ้นไปนับจากวันลงทุน และอายุ 55 ปีบริบูรณ์ 5 ปีขึ้นไปนับจากวันลงทุน

*วงเงินกลุ่มเกษียณ รวมกันไม่เกิน 500,000 บาท ตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร ได้แก่
กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) + กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) + กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)และกองทุนสงเคราะห์ตามกฏหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน + กองทุนการออมแห่งชาติ + ประกันชีวิตแบบบำนาญ

เงื่อนไขการรับการลดหย่อนภาษี

  • ลงทุนกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ได้รับการลดหย่อนภาษีสูงสุด 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี เมื่อรวมกับเงินลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เงินสะสมที่จ่ายเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน กองทุนการออมแห่งชาติ และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ
  • ลงทุนกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ได้รับการลดหย่อนภาษีสูงสุด 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี เมื่อรวมกับเงินลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) เงินสะสมที่จ่ายเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund : PVD) กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน กองทุนการออมแห่งชาติ และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ
  • ทั้งนี้เมื่อรวมกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เงินลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) เงินสะสมที่จ่ายเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund : PVD) กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน กองทุนการออมแห่งชาติ และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท
  • ลงทุนกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) ได้รับการลดหย่อนภาษีสูงสุด 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 300,000 บาทต่อปี โดยไม่ต้องนับรวมกับวงเงิน 500,000 บาทที่เป็นเพดานรวมของเงินลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เงินลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) เงินสะสมที่จ่ายเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund : PVD) กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน กองทุนการออมแห่งชาติ และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ
  • เมื่อปฏิบัติตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร และขึ้นอยู่กับฐานภาษีผู้ลงทุนแต่ละราย โปรดศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมจากกรมสรรพากร

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา ผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนที่ บลจ.แต่งตั้ง หรือที่

  • บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02 786 2222
    เว็บไซต์ https://www.uobam.co.th/th/home
  • บลจ. กรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02 686 6100 กด 9
    เว็บไซต์ https://www.ktam.co.th/th/default.aspx
  • บลจ. กรุงศรี จำกัด โทร. 02 657 5757
    เว็บไซต์ https://www.krungsriasset.com/TH/Home.aspx
  • บลจ. อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02 352 3388
    เว็บไซต์ https://www.abrdn.com/
  • บลจ. ไทยพาณิชย์ จำกัด โทร. 02 777 7777
    เว็บไซต์ https://www.scbam.com/
  • บลจ. กสิกรไทย จำกัด โทร. 02 673 3999
    เว็บไซต์ https://www.kasikornasset.com/

คำเตือน :

  • การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า นโยบายกองทุน เงื่อนไข ผลตอบแทน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุนก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) กองทุน TCMF /UOBSD-SSF /KFCASH-A และ ABCC เป็นการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตลาดเงินไม่ใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงจากการลงทุนซึ่งผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวน
  • กองทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนในต่างประเทศ ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
  • ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลของกองทุนรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง ผลการดำเนินงาน และผลกระทบการลงทุน ที่ผิดเงื่อนไขของกองทุนรวมที่เปิดเผยไว้ในแหล่งต่าง ๆ รวมถึงศึกษาข้อมูลบนหนังสือชี้ชวนฯจากเว็บไซต์ของ บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด บลจ. กรุงไทย จำกัด (มหาชน) บลจ. กรุงศรี จำกัด บลจ. อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) จำกัด บลจ. ไทยพาณิชย์ จำกัด และ/หรือ บลจ. กสิกรไทย จำกัด ก่อนการตัดสินใจลงทุน

รายละเอียดเพิ่มเติม

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าธนาคารยูโอบี โทร 0-2285-1555 

สมัครบัตรเครดิตยูโอบี

สมัครบัตร