ธุรกิจในทุกอุตสาหกรรมและทุกระยะของการเติบโตต้องพิจารณาว่าจะรับชําระเงินจากลูกค้าอย่างไร แต่ในโลกนี้ไม่มีโซลูชันไหนที่จะตอบโจทย์ความต้องการได้ทุกแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคดิจิทัลที่ธุรกิจจําเป็นต้องรับชําระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
ในปี 2021 วิธีการชําระเงินยอดนิยมในสหรัฐอเมริกาประกอบด้วยบัตรเครดิตคิดเป็นสัดส่วน 40% ของธุรกรรมทั้งหมด บัตรเดบิตคิดเป็น 30% เงินสดที่ 11% และกระเป๋าเงินดิจิทัล 11% ตามมาด้วยวิธีการชําระเงินอื่นๆ เช่น บัตรเติมเงิน บัตรของขวัญ และวิธีการชําระเงินแบบซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง
แล้วคุณจะทราบได้อย่างไรว่าตัวเลือกการประมวลผลการชําระเงินแบบใดเหมาะกับธุรกิจของคุณที่สุด
บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง
- ประโยชน์ของการรับชําระเงินทางออนไลน์
- ฉันควรขายผ่านเว็บไซต์ของตัวเองหรือบนมาร์เก็ตเพลส
- วิธีรับชําระเงินออนไลน์
- วิธีรับชําระเงินผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิต
- การรับชําระเงินที่จุดขาย
- การรับชําระเงินมีค่าใช่จ่ายเท่าไหร่
- ผู้ประมวลผลการชําระเงินรายใดเหมาะกับธุรกิจของฉันที่สุด
ประโยชน์ของการรับชําระเงินทางออนไลน์
ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะรับชําระเงินที่จุดขายหรือรับชำระเงินทางออนไลน์อย่างเดียว การรับชําระเงินออนไลน์ก็เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการขยายตัวตนบนโลกดิจิทัล กระตุ้นการเติบโต และเปลี่ยนลูกค้าให้เป็นผู้ใช้แบบชําระเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันมีธุรกิจไม่กี่แห่งที่ไม่จําเป็นต้องรับชําระเงินออนไลน์ แม้แต่ธุรกิจที่ทำธุรกรรมที่จุดขายอย่างเดียวก็จะได้รับประโยชน์จากการผสานการทํางานการประมวลผลการชําระเงินออนไลน์
ธุรกิจที่ต้องรับการชําระเงินทางออนไลน์มีดังนี้
- ร้านอีคอมเมิร์ซ
- บริการแบบสมัครสมาชิก
- แพลตฟอร์ม SaaS
- ครีเอเตอร์
- แพลตฟอร์ม
- มาร์เก็ตเพลส
ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ต้องการซื้อสินค้าที่มีตัวเลือกการชําระเงินออนไลน์มากกว่า ในปี 2021 82% ของชาวอเมริกันใช้การชําระเงินดิจิทัล ซึ่งสูงขึ้นจาก 72% เมื่อ 5 ปีก่อน
ฉันควรขายผ่านเว็บไซต์ของตัวเองหรือบนมาร์เก็ตเพลส
ผู้ค้าจะต้องเลือกว่าจะขายสินค้าและบริการบนเว็บไซต์แบรนด์ของตัวเอง หรือวางจำหน่ายบนมาร์เก็ตเพลสของบริษัทอื่น เช่น Shopify, Amazon หรือ Etsy เนื่องจากตัวเลือกการประมวลผลการชําระเงินส่วนใหญ่ที่เราจะพูดถึงต่อไปมีอิทธิพลต่อการเลือกนี้ เรามาดูภาพรวมของการตัดสินใจกัน
การรับชําระเงินบนเว็บไซต์ของคุณเองทําให้คุณต้องรับภาระในการประมวลผลการชําระเงิน แต่ก็มีข้อดีบางประการ
ควบคุมได้ทุกอย่าง
คุณมีสิทธิ์ควบคุมรูปลักษณ์ของเว็บไซต์ วิธีการจัดการ และสิ่งที่แสดงบนเว็บไซต์ คุณสามารถคัดสรรและปรับรายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับประสบการณ์ของผู้เข้าชมให้เหมาะกับเป้าหมายและกลุ่มเป้าหมายของคุณ คุณรู้จักธุรกิจของคุณดีกว่าใคร ดังนั้น การรับชําระเงินบนเว็บไซต์ของคุณเองจะช่วยให้คุณสามารถใช้ความรู้ดังกล่าวมาเพิ่มอัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงิน เพิ่มรายรับ และวางกลยุทธ์ผสานการดําเนินงานด้านการตลาดและการขายการสร้างแบรนด์และการแนะนํามีประสิทธิภาพมากกว่า
เมื่อคุณประมวลผลการขายผ่านเว็บไซต์ของคุณเองเป็นหลัก คุณค่าของแบรนด์ที่คุณได้รับกลับมานั้นประเมินค่าไม่ได้ หากผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าค้นพบผลิตภัณฑ์ของคุณในตลาดขนาดใหญ่อย่าง Amazon ลูกค้าอาจตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ของแบรนด์อื่นแทนได้ง่าย
หากคุณพยายามจะสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งโดยใช้โซลูชันที่ขยายการทำงานได้และเติบโตไปพร้อมๆ กับคุณ การขายสินค้าบนเว็บไซต์ของคุณเองอาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
แต่การขายสินค้าและบริการบนมาร์เก็ตเพลสก็มีข้อดีเช่นกัน เพราะช่วยให้ลูกค้าใหม่มองเห็นธุรกิจ เพิ่มความน่าเชื่อถือ และมอบเกตเวย์การชําระเงินและผู้ประมวลผลการชําระเงินให้กับธุรกิจ คุณจึงควรเลือกว่าแบบไหนเหมาะกับธุรกิจและเป้าหมายของคุณมากที่สุด
วิธีรับชําระเงินออนไลน์
คุณจําเป็นต้องมี 2 สิ่งเพื่อเริ่มรับชําระเงินออนไลน์ นั่นคือผู้ประมวลผลการชําระเงินและเกตเวย์การชําระเงิน ผู้ให้บริการบางรายอาจให้บริการทั้ง 2 อย่าง แต่เราจะใช้เวลาสักครู่ศึกษาความแตกต่างขององค์ประกอบ 2 อย่างนี้
ผู้ประมวลผลการชําระเงิน
ผู้ประมวลผลการชําระเงินจะจัดการธุรกรรมในภาพรวม โดยจะสื่อสารระหว่างธนาคารของลูกค้ากับธนาคารของผู้ค้า เพื่อส่งเงินไปยังปลายทางที่เหมาะสม ผู้ประมวลผลการชําระเงินเป็นเครื่องมือของบริษัทอื่นที่ช่วยให้คุณรับการชําระเงินและประมวลผลธุรกรรมได้เกตเวย์การชําระเงิน
เกตเวย์การชําระเงินทำหน้าที่เป็น "ประตู" ตามชื่อ โดยจะอนุมัติหรือปฏิเสธวิธีการชําระเงินหลังจากลูกค้าส่งการชําระเงินเข้าสู่ระบบ เกตเวย์จะส่งข้อมูลการชําระเงินไปยังผู้ประมวลผลการชําระเงิน หลังจากนั้นผู้ประมวลผลการชําระเงินจะจัดการธุรกรรมส่วนที่เหลือ เช่นเดียวกับผู้ประมวลผลการชําระเงินส่วนใหญ่ Stripe มีฟังก์ชันเกตเวย์ในตัวโซลูชันการประมวลผลการชําระเงิน คุณจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการตั้งค่าเกตเวย์แยกต่างหาก อย่างไรก็ตาม มีผลิตภัณฑ์เกตเวย์การชําระเงินแบบสแตนด์อโลนด้วยเช่นกัน
วิธีรับชําระเงินผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิต
ผู้ค้าจะต้องตั้งค่าผู้ประมวลผลการชําระเงินและเกตเวย์การชําระเงินไว้จึงจะรับชําระเงินผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตบนเว็บไซต์ของตัวเองได้ หากคุณทําการขายผ่านมาร์เก็ตเพลสหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีการประมวลผลการชําระเงินในตัวสําหรับผู้ค้า อย่างเดียวที่คุณต้องทำอาจจะมีแค่เชื่อมโยงบัญชีธนาคารของธุรกิจ
การรับชําระเงินที่จุดขาย
หากธุรกิจของคุณทําธุรกรรมที่จุดขายด้วย แนะนำให้เลือกผู้ประมวลผลการชําระเงินที่ให้บริการฮาร์ดแวร์สำหรับยอมรับธุรกรรมที่จุดขายเช่น เทอร์มินัลระบบบันทึกการขาย (POS) และเครื่องอ่านบัตรที่สามารถใช้รับข้อมูลบัตรเครดิตและบัตรเดบิต นอกจากนี้ ผู้ประมวลผลการชําระเงินของคุณควรให้บริการซอฟต์แวร์การชําระเงินบนระบบคลาวด์ที่รวมทั้งธุรกรรมที่จุดขายและธุรกรรมออนไลน์ไว้ด้วย
ตรวจสอบว่าเครื่องอ่านบัตรของคุณยอมรับวิธีการชําระเงินด้วยบัตรเครดิตและบัตรเดบิตประเภทต่อไปนี้ได้
การชําระเงินแบบไร้สัมผัส
บัตรเครดิตและบัตรเดบิตส่วนใหญ่สามารถส่งข้อมูลการชําระเงินได้เมื่อคุณถือบัตรใกล้กับเครื่องอ่านบัตรหรือแตะบัตร ธุรกรรมผ่านบัตรเหล่านี้ใช้เทคโนโลยีการสื่อสารระยะใกล้ (NFC) และมีความปลอดภัยสูง เครื่องอ่านบัตรที่ทันสมัยส่วนใหญ่จะยอมรับธุรกรรมประเภทนี้ รวมถึงการชําระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัล ซึ่งเป็นวิธีการชําระเงินที่ผู้บริโภคต้องการนิยมใช้มากขึ้น (เพื่อความสะดวก) รวมถึงผู้ค้าเองด้วย (เพื่อความปลอดภัย)การชําระเงินที่ใช้ชิป EMV
หากคุณเคยเสียบบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตลงในเครื่องอ่านบัตร (แทนที่จะแตะหรือรูดบัตร) การดําเนินการชําระเงินดังกล่าวเกิดขึ้นได้เพราะชิป EMV ชิป EMV คือชิปคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่ฝังอยู่บนบัตรบางใบ ชิปจะดําเนินการชําระเงินด้วยการส่งรหัสที่ไม่ซ้ำกันไปยังเครื่องอ่านบัตรแทนที่จะส่งหมายเลขบัตร ทําให้ความเสี่ยงต่อการฉ้อโกงน้อยกว่าการทําธุรกรรมผ่านบัตรแบบรูดบัตรการชําระเงินผ่านแถบแม่เหล็ก
การชําระเงินผ่านแถบแม่เหล็ก (magstripe) ใช้แถบแม่เหล็กที่พาดยาวอยู่ด้านหลังบัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรเติมเงิน และบัตรของขวัญบางใบ ระบบการชําระเงินผ่านบัตรแบบคลาสสิคนี้ปลอดภัยน้อยกว่าการทําธุรกรรมผ่านบัตรเครดิตแบบอื่นๆ แต่บัตรเครดิตและบัตรเดบิตจํานวนมากยังคงใช้แถบแม่เหล็กอย่างเดียว ดังนั้นธุรกิจของคุณจึงควรเตรียมพร้อมรับชำระเงินผ่านบัตรเหล่านั้นด้วย แม้ว่าคุณจะต้องการวิธีการใหม่ที่ปลอดภัยกว่าก็ตาม
การรับชําระเงินมีค่าใช่จ่ายเท่าไหร่
ปัจจัยหลายประการส่งผลต่อต้นทุนในการรับชําระเงิน รวมถึงอุตสาหกรรมของคุณ ผู้ประมวลผลการชําระเงินที่คุณใช้ และวิธีการชําระเงินที่คุณยอมรับเป็นส่วนใหญ่ โมเดค่าบริการที่ผู้ประมวลผลการชําระเงินแบ่งออกเป็น 3 แบบหลักๆ ดังนี้
ค่าบริการบวกค่าธรรมเนียมธุรกรรมผ่านบัตรระหว่างธนาคาร
อัตราค่าธรรมเนียมการทําธุรกรรมผ่านบัตรระหว่างธนาคารหมายถึงค่าธรรมเนียมที่ผู้ค้าต้องจ่ายสําหรับธุรกรรมบัตรเครดิตและบัตรเดบิตทุกรายการ คุณต้องจ่ายอัตราค่าธรรมเนียมการทําธุรกรรมผ่านบัตรระหว่างธนาคารที่เครือข่ายบัตรเครดิตกําหนด บวกค่าธรรมเนียมอีกส่วนหนึ่งที่ผู้ประมวลผลการชําระเงินกำหนดค่าธรรมเนียมการสมัครใช้บริการ
คุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการสมัครใช้บริการรายเดือนแบบคงที่ ซึ่งครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการประมวลผลส่วนใหญ่อัตราคงที่ต่อธุรกรรม
สำหรับโมเดลค่าบริการแบบนี้ ระบบจะเรียกเก็บเงินจากคุณในอัตราเดียวกันกับธุรกรรมประเภทเดียวกันทุกรายการ โมเดลค่าบริการนี้คำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าธรรมเนียมการทําธุรกรรมผ่านบัตรระหว่างธนาคาร แต่จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งจะทําให้คุณวางแผนและจัดงบประมาณง่ายขึ้น
นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายในการประมวลผลแล้ว คุณยังอาจเสียค่าธรรมเนียมอื่นๆ ให้แก่ผู้ประมวลผลการชําระเงินหรือบัญชีผู้ค้าด้วย ได้แก่
ค่าธรรมเนียมเตรียมการ
ค่าธรรมเนียมเตรียมการคือค่าธรรมเนียมแบบครั้งเดียวที่เกี่ยวข้องกับการตั้งค่าบัญชีผู้ค้าของคุณในขั้นแรกค่าธรรมเนียมขั้นต่ำต่อเดือน
ผู้ให้บริการบางรายจะกําหนดยอดขั้นต่ำที่คุณต้องชําระในแต่ละเดือน และหากค่าธรรมเนียมการประมวลผลการชําระเงินของคุณไม่ถึงจํานวนนั้น คุณก็ยังต้องเสียส่วนต่างที่เหลือนั้นอยู่ดีค่าธรรมเนียมอุตสาหกรรมบัตรชําระเงิน (PCI)
หากธุรกิจของคุณรับชําระเงินผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิต คุณจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยข้อมูลที่สภามาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของ PCI กําหนดไว้ มาตรฐานเหล่านี้เรียกว่ามาตรฐานการรักษาความปลอดภัยข้อมูลสําหรับอุตสาหกรรมบัตรชําระเงิน (PCI DSS) บางครั้งคุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมที่ช่วยในการปฏิบัติตามมาตรฐานเหล่านี้อย่างต่อเนื่องค่าธรรมเนียมรายปี
ผู้ให้บริการบางรายเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการบริการในบัญชีผู้ค้าทุกๆ ปีค่าธรรมเนียมแบบชุด
ธุรกรรมของคุณในแต่ละวันมักจะถูกมัดรวมกันเป็น "ชุด" และส่งไปเพื่อการประมวลผลการชำระเงิน ค่าธรรมเนียมแบบชุดจะครอบคลุมบริการนี้ค่าธรรมเนียมการดึงเงินคืน
หากลูกค้าโต้แย้งการเรียกเก็บเงินที่ธุรกิจของคุณเรียกเก็บจากบัตรของลูกค้า และมีการปรับคืนยอดดังกล่าว คุณอาจต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการดึงเงินคืนค่าธรรมเนียมการยกเลิกข้อตกลงก่อนหมดสัญญา
โดยปกติแล้ว จะมีค่าธรรมเนียมนี้หากคุณยกเลิกบัญชีของคุณก่อนพ้นระยะเวลาที่กําหนด ตามที่ระบุไว้ในข้อตกลงการให้บริการของคุณ
ผู้ประมวลผลการชําระเงินรายใดเหมาะกับธุรกิจของฉันที่สุด
ในการเลือกผู้ให้บริการชำระเงินแต่ละราย คุณต้องพิจารณาค่าใช้จ่าย ขอบเขตการบริการ และความเป็นไปได้ในการขยายการทำงาน รวมทั้งปัจจัยอื่นๆ สําหรับธุรกิจส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นผู้ค้ารายย่อยอิสระมาร์เก็ตเพลส แพลตฟอร์ม และบริษัทระดับองค์กรขนาดใหญ่ โซลูชันการชําระเงินแบบครบวงจร เช่น Stripe ซึ่งช่วยให้ธุรกิจรับชําระเงินได้หลายรูปแบบนอกเหนือจากบัตรเครดิตและบัตรเดบิต ถือเป็นตัวเลือกในการประมวลผลการชําระเงินที่มีประสิทธิภาพและประหยัดที่สุด
นอกจากนี้ควรพิจารณาด้วยว่าผู้ประมวลผลการชําระเงินรายใดมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า การประมวลผลการชําระเงินไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการเคลื่อนย้ายเงินระหว่างลูกค้าและผู้ค้าเท่านั้น หากธุรกรรมง่ายดาย ไม่เพียงแต่เพิ่มแนวโน้มในการซื้อสินค้าหรือบริการ แต่ยังเป็นการลงทุนที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ของแบรนด์ให้แก่ลูกค้ารายนั้นด้วย ซึ่งสามารถสร้างความภักดีต่อแบรนด์และเพิ่มมูลค่าตลอดอายุการใช้งานของลูกค้า (LTV) ได้
ในทางกลับกัน ผู้ประมวลผลการชําระเงินที่ทำให้ธุรกรรมยุ่งยากหรือผิดพลาดจะทำให้คุณเสี่ยงต่อการสูญเสียการขายและผลักไสลูกค้าไปที่อื่น หากขั้นตอนการชำระเงินยุ่งยาก ผู้คนจะทิ้งธุรกรรมนั้น โดยหลักแล้ว ผู้ประมวลผลการชําระเงินจะยกระดับขั้นตอนดังกล่าวและช่วยให้ลูกค้าทําการซื้อจนเสร็จสมบูรณ์ ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์มการชําระเงินของ Stripe จะใช้แมชชีนเลิร์นนิงเพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยากในขั้นตอนการชำระเงิน ปกป้องธุรกิจของคุณจากการฉ้อโกง และลดการปฏิเสธการชําระเงินอันเกิดจากข้อผิดพลาดให้เหลือน้อยที่สุด ผลลัพธ์ที่ได้คืออัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชําระเงินสูงขึ้นและลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นยิ่งขึ้น
โปรดคํานึงถึงรายละเอียดต่อไปนี้เมื่อคุณเลือกโซลูชันการชําระเงินที่เหมาะสม
การปรับแต่ง
เลือกใช้โซลูชันการชําระเงินที่ให้คุณปรับแต่งอินเทอร์เฟซผู้ใช้สําหรับขั้นตอนการชําระเงินและเชื่อมต่อกับระบบนิเวศดิจิทัลที่คุณมีอยู่ รวมทั้งมีเครื่องมือและการสนับสนุนที่ให้คุณปรับแต่งและติดตั้งใช้งานการชําระเงินได้อย่างง่ายดายการรักษาความปลอดภัย
คุณต้องระมัดระวังอย่างยิ่งเมื่อเป็นเรื่องของการปกป้องข้อมูลการชําระเงินของลูกค้า คุณจะต้องใช้ผู้ประมวลผลการชําระเงินที่จริงจังเกี่ยวกับการป้องกันการฉ้อโกง รวมทั้งเสนอมาตรการรักษาความปลอดภัยสําหรับการชําระเงิน เช่น บริการยืนยันที่อยู่ (AVS), 3D Secure และมาตรฐานอื่นๆ ที่ช่วยลดการฉ้อโกงสําหรับธุรกรรมทั้งแบบแสดงบัตรจริง (CP) และธุรกรรมแบบไม่ต้องแสดงบัตร (CNP)โซลูชันการชําระเงินและการเติบโตเต็มรูปแบบ
นึกถึงเครื่องมือหรือบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลการชําระเงินและน่าจะมีประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณ เช่น การออกใบแจ้งหนี้และการเรียกเก็บเงิน การพัฒนาเว็บไซต์ การสร้างกระบวนการทางการตลาด และการรายงานและการวิเคราะห์การขายโดยละเอียด การประมวลผลการชําระเงินมีความเชื่อมโยงกับการดำเนินงานทุกด้านของธุรกิจ ดังนั้น แม้ว่าผู้ประมวลผลการชําระเงินของคุณจะไม่ให้บริการเหล่านั้น แต่ควรมองว่าบริการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์โดยรวมความสามารถในการปรับขนาด
ลองนึกภาพว่าการประมวลผลการชําระเงินจะมีลักษณะเป็นอย่างไรเมื่อธุรกิจของคุณเติบโตขึ้น หากผู้ประมวลผลการชําระเงินอย่าง Stripe มีประวัติการให้ผู้ค้าจำนวนมาก ตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กที่เพิ่งเริ่มให้บริการ ไปจนถึงธุรกิจสตาร์ทอัพและองค์กรขนาดใหญ่ นี่คือสิ่งที่บ่งชี้ว่าบริษัททราบดีว่าจะตอบสนองความต้องการด้านการชําระเงินของคุณอย่างไรในระยะต่างๆ ของการเติบโตและการขยายธุรกิจ การเลือกโซลูชันการประมวลผลการชําระเงินที่ปรับขนาดได้จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและช่วยให้คุณไม่ต้องกลับมาเลือกผู้ให้ประมวลผลการชำระเงินอีกครั้งภายในไม่กี่ปีและทำการย้ายข้อมูลที่น่าเบื่อหน่ายวิธีการชําระเงินแบบต่างๆ ที่รองรับ
แม้ผู้บริโภคจะยังคงใช้บัตรเครดิตและบัตรเดบิตเป็นหลักในการชําระเงินในอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ แต่นี่ไม่ใช่วิธีการชําระเงินแบบเดียวที่ผู้บริโภคต้องการ ดังนั้น คุณควรมองหาผู้ให้บริการชําระเงินที่ช่วยให้คุณยอมรับวิธีการชําระเงินที่หลากหลาย ตัวเลือกอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมซึ่งคุณน่าจะต้องรองรับ ได้แก่ การชําระเงินแบบไร้สัมผัส กระเป๋าเงินดิจิทัล ซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง และการโอนเงินทางธนาคารผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์การสนับสนุนผู้ค้าอย่างทันท่วงที
คุณกำลังมอบหมายส่วนสำคัญของธุรกิจให้บุคคลภายนอกดำเนินการ หากเกิดข้อผิดพลาดจากฝั่งของบุคคลดังกล่าว ก็อาจส่งผลให้ธุรกิจของคุณหยุดชะงักได้ง่าย ดังนั้น คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เลือกใช้บริการผู้ให้บริการประมวลผลการชําระเงินที่ตอบสนองฉับไว สื่อสารข้อมูลครบถ้วน และพร้อมช่วยเหลือคุณและทีมของคุณอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่เข้าใจง่าย
คุณควรเพิ่มประสิทธิภาพขั้นตอนการชําระเงิน รวมถึงตั้งค่าการชําระเงิน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่สะดวกราบรื่นให้แก่ลูกค้าและเพิ่มอัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชําระเงิน ขั้นตอนการชําระเงินที่สะดวกและใช้งานง่ายสำคัญอย่างมากสําหรับลูกค้าของคุณ และคุณคงไม่ต้องการให้ลูกค้าทำสิ่งที่ไม่จําเป็นระหว่างพยายามทําธุรกรรมให้เสร็จสมบูรณ์
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ