สร้างตัวติดตั้งที่บูตได้สำหรับ macOS

คุณสามารถใช้แฟลชไดรฟ์ USB หรือดิสก์โวลุ่มรองเป็นดิสก์เริ่มต้นระบบที่ใช้ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Mac ได้ ขั้นตอนเหล่านี้มีไว้เฉพาะสำหรับผู้ดูแลระบบและผู้ใช้อื่นๆ ที่มีประสบการณ์ซึ่งคุ้นเคยกับการป้อนคำสั่งในเทอร์มินัล

ทำไมต้องใช้ตัวติดตั้งที่บูตได้

คุณไม่ต้องใช้ตัวติดตั้งที่บูตได้เพื่ออัปเกรด macOS หรือติดตั้ง macOS อีกครั้ง แต่ตัวติดตั้งที่บูตได้จะมีประโยชน์เมื่ออัปเกรดหรือใช้วิธีอื่นๆ ในการติดตั้ง macOS แล้วแต่ไม่สำเร็จ หรือเมื่อคุณต้องการติดตั้ง macOS บนคอมพิวเตอร์หลายเครื่องโดยไม่ต้องดาวน์โหลดตัวติดตั้งทุกครั้ง

ดาวน์โหลดตัวติดตั้ง macOS แบบเต็มจาก Apple

วิธีดาวน์โหลดตัวติดตั้ง macOS แบบเต็ม

  • ดาวน์โหลด macOS จาก App Store หรือใช้เว็บเบราว์เซอร์โดยใช้ลิงก์และคำแนะนำในวิธีดาวน์โหลดและติดตั้ง

  • ดาวน์โหลดจาก Mac ที่เข้ากันได้กับ macOS ที่คุณกำลังดาวน์โหลด หากคุณกำลังดาวน์โหลด macOS เวอร์ชั่นเก่า คุณอาจต้องสร้างตัวติดตั้งที่บูตได้บน Mac รุ่นเก่าที่เข้ากันได้กับ macOS เวอร์ชั่นนั้น

  • ดาวน์โหลดจาก Mac ที่ใช้ OS X El Capitan เวอร์ชั่นล่าสุดหรือ macOS รุ่นใหม่กว่ารุ่นไหนก็ได้ ดูว่า Mac ของคุณใช้ macOS รุ่นใด

  • ผู้ดูแลระบบขององค์กร: ดาวน์โหลดจาก Apple และไม่ควรดาวน์โหลดจากเซิร์ฟเวอร์สำหรับการอัปเดตที่โฮสต์อยู่ภายในองค์กร

หลังจากดาวน์โหลดตัวติดตั้งแล้ว ให้ทำดังนี้

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวติดตั้งอยู่ในโฟลเดอร์แอปพลิเคชันของดิสก์เริ่มต้นระบบ ซึ่งเป็นโฟลเดอร์ที่จะเปิดขึ้นมาเมื่อคุณเลือก "ไป > แอปพลิเคชัน" จากแถบเมนูใน Finder และให้ย้ายตัวติดตั้งไปที่โฟลเดอร์นี้หากจำเป็น

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวติดตั้งได้รับการตั้งชื่อเป็น Install [ชื่อเวอร์ชั่น] เช่น Install macOS Sequoia และต้องเป็นแอปตัวติดตั้ง ไม่ใช่อิมเมจดิสก์ (.dmg) หรือแพ็คเกจ (.pkg) ที่มีตัวติดตั้ง

เชื่อมต่อแฟลชไดรฟ์ USB เข้ากับ Mac ของคุณ

เชื่อมต่อแฟลชไดรฟ์ USB หรือดิสก์โวลุ่มรองเข้ากับ Mac ของคุณ

  • เมื่อคุณสร้างตัวติดตั้งที่บูตได้ ดิสก์โวลุ่มนี้จะถูกลบโดยอัตโนมัติ

  • แฟลชไดรฟ์ USB ความจุ 32GB มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่มากเพียงพอสำหรับตัวติดตั้ง macOS และ 16GB ก็เป็นพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่เพียงพอสำหรับ macOS เวอร์ชั่นก่อนหน้าส่วนใหญ่ หากต้องการพื้นที่เพิ่มอีก เทอร์มินัลจะแจ้งให้คุณทราบ

ใช้เทอร์มินัลเพื่อสร้างตัวติดตั้งที่สามารถบูตได้

หน้าต่างเทอร์มินัลที่แสดงว่าการดำเนินการเสร็จสมบูรณ์
  1. เชื่อมต่อแฟลชไดรฟ์ USB เข้ากับ Mac ของคุณโดยตรง

  2. เปิดเทอร์มินัลที่อยู่ในโฟลเดอร์ยูทิลิตี้ของโฟลเดอร์แอปพลิเคชัน

  3. ป้อนคำสั่งใดคำสั่งหนึ่งต่อไปนี้ในเทอร์มินัลตาม macOS ที่คุณดาวน์โหลด แต่ละคำสั่งจะถือว่าตัวติดตั้งอยู่ในโฟลเดอร์แอปพลิเคชัน และแฟลชไดรฟ์ USB ของคุณตั้งชื่อไว้ว่า MyVolume หากใช้ชื่ออื่น ให้เปลี่ยนชื่อนั้นหรือเปลี่ยน MyVolume ในคำสั่งเป็นชื่อที่คุณใช้

    • Sequoia sudo /Applications/Install\ macOS\ Sequoia.app/Contents/Resources/createinstallmedia --volume /Volumes/MyVolume

    • Sonoma sudo /Applications/Install\ macOS\ Sonoma.app/Contents/Resources/createinstallmedia --volume /Volumes/MyVolume

    • Ventura sudo /Applications/Install\ macOS\ Ventura.app/Contents/Resources/createinstallmedia --volume /Volumes/MyVolume

    • Monterey sudo /Applications/Install\ macOS\ Monterey.app/Contents/Resources/createinstallmedia --volume /Volumes/MyVolume

    • Big Sur sudo /Applications/Install\ macOS\ Big\ Sur.app/Contents/Resources/createinstallmedia --volume /Volumes/MyVolume

    • Catalina sudo /Applications/Install\ macOS\ Catalina.app/Contents/Resources/createinstallmedia --volume /Volumes/MyVolume

    • Mojave sudo /Applications/Install\ macOS\ Mojave.app/Contents/Resources/createinstallmedia --volume /Volumes/MyVolume

    • High Sierra sudo /Applications/Install\ macOS\ High\ Sierra.app/Contents/Resources/createinstallmedia --volume /Volumes/MyVolume

    • El Capitan sudo /Applications/Install\ OS\ X\ El\ Capitan.app/Contents/Resources/createinstallmedia --volume /Volumes/MyVolume --applicationpath /Applications/Install\ OS\ X\ El\ Capitan.app

  4. เมื่อได้รับแจ้ง ให้พิมพ์รหัสผ่านผู้ดูแลระบบของคุณ เทอร์มินัลจะไม่แสดงอักขระใดๆ ในขณะที่คุณพิมพ์ จากนั้นกดปุ่ม Return

  5. เมื่อระบบแจ้ง ให้พิมพ์ Y เพื่อยืนยันว่าคุณต้องการลบดิสก์โวลุ่มนั้น แล้วกด Return เทอร์มินัลจะแสดงความคืบหน้าขณะลบดิสก์โวลุ่ม หากเทอร์มินัลลบไม่สำเร็จ ให้ใช้ยูทิลิตี้ดิสก์ในการลบดิสก์โวลุ่มโดยใช้รูปแบบ Mac OS Extended (Journaled) จากนั้นเริ่มต้นอีกครั้งตั้งแต่ต้น

  6. หากคุณเห็นการเตือนว่าเทอร์มินัลต้องการเข้าถึงไฟล์บนโวลุ่มแบบถอดออกได้ ให้คลิกตกลงเพื่ออนุญาตให้ระบบทำการคัดลอกได้

  7. เมื่อเทอร์มินัลระบุว่าสื่อการติดตั้งพร้อมใช้งานแล้วตอนนี้ ดิสก์โวลุ่มจะมีชื่อเดียวกับตัวติดตั้ง เช่น Install macOS Sequoia ตอนนี้คุณสามารถปิดเทอร์มินัล ดีดโวลุ่มออก แล้วถอดแฟลชไดรฟ์ USB ออกจากเครื่อง

ใช้ตัวติดตั้งที่สามารถบูตได้

ทำตามขั้นตอนที่เหมาะสมโดยดูว่า Mac ที่คุณกำลังติดตั้ง macOS เป็น Mac ที่มี Apple Silicon หรือไม่

Mac ที่มี Apple Silicon

  1. ก่อนที่คุณจะเริ่ม

    • Mac ต้องเข้ากันได้กับ macOS ที่คุณกำลังติดตั้ง หากเข้ากันไม่ได้ Mac อาจเริ่มต้นระบบขึ้นมาแล้วปรากฏเป็นรูปวงกลมที่มีเส้นขีดทับ

    • Mac เครื่องนี้ต้องสามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ ตัวติดตั้งที่บูตได้จะไม่ดาวน์โหลด macOS แต่จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์และข้อมูลอื่นๆ สำหรับ Mac รุ่นนี้

  2. ปิดเครื่องหรือปิดอุปกรณ์ Mac

  3. เชื่อมต่อตัวติดตั้งที่บูตได้เข้ากับ Mac

  4. เปิดเครื่อง Mac และกดปุ่มเปิดปิดค้างไว้จนกว่าคุณจะเห็นหน้าต่างตัวเลือกการเริ่มต้นระบบ ซึ่งจะแสดงดิสก์โวลุ่มที่บูตได้ รวมถึงตัวติดตั้งที่บูตได้

  5. เลือกตัวติดตั้งที่บูตได้ จากนั้นคลิกดำเนินการต่อ

  6. เมื่อเปิดโปรแกรมติดตั้ง macOS ให้ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ

Mac เครื่องอื่นๆ

  1. ก่อนที่คุณจะเริ่ม

    • Mac ต้องเข้ากันได้กับ macOS ที่คุณกำลังติดตั้ง หากเข้ากันไม่ได้ Mac อาจเริ่มต้นระบบขึ้นมาแล้วปรากฏเป็นรูปวงกลมที่มีเส้นขีดทับ

    • Mac เครื่องนี้ต้องสามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ ตัวติดตั้งที่บูตได้จะไม่ดาวน์โหลด macOS แต่จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์และข้อมูลอื่นๆ สำหรับ Mac รุ่นนี้

  2. ปิดเครื่องหรือปิดอุปกรณ์ Mac

  3. เชื่อมต่อตัวติดตั้งที่บูตได้เข้ากับ Mac

  4. เปิดเครื่อง Mac จากนั้นกดปุ่ม Option (Alt) ค้างไว้ทันที

  5. ปล่อยปุ่ม Option เมื่อคุณเห็นหน้าจอสีเข้มที่แสดงดิสก์โวลุ่มที่บูตได้ รวมถึงตัวติดตั้งที่บูตได้

  6. เลือกตัวติดตั้งที่บูตได้ จากนั้นคลิกลูกศรบนหน้าจอหรือกด Return

  7. หากคุณใช้ Mac ที่มีชิป Apple T2 Security และไม่สามารถเริ่มต้นระบบจากตัวติดตั้งที่บูตได้ ให้ตรวจสอบว่ายูทิลิตี้ความปลอดภัยการเริ่มต้นระบบได้รับการตั้งค่าให้อนุญาตให้บูตจากสื่อภายนอกหรือสื่อที่ถอดออกได้

  8. เลือกภาษาของคุณ หากระบบแจ้ง

  9. เลือกติดตั้ง macOS (หรือติดตั้ง OS X) จากหน้าต่างยูทิลิตี้ แล้วคลิกดำเนินการต่อ และทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ

เรียนรู้เพิ่มเติม

หาก Mac ที่คุณใช้สร้างตัวติดตั้งที่บูตได้ใช้ macOS Sierra หรือรุ่นก่อนหน้า คำสั่งควรลงท้ายด้วย --applicationpath ตามด้วยพาธของตัวติดตั้งที่เหมาะสม คล้ายกับที่แสดงท้ายคำสั่งสำหรับ El Capitan

วันที่เผยแพร่: