วิธีใช้สูตรและฟังก์ชั่น
- ยินดีต้อนรับ
-
- ACCRINT
- ACCRINTM
- BONDDURATION
- BONDMDURATION
- COUPDAYBS
- COUPDAYS
- COUPDAYSNC
- COUPNUM
- CUMIPMT
- CUMPRINC
- CURRENCY
- CURRENCYCODE
- CURRENCYCONVERT
- CURRENCYH
- DB
- DDB
- DISC
- EFFECT
- FV
- INTRATE
- IPMT
- IRR
- ISPMT
- MIRR
- NOMINAL
- NPER
- NPV
- PMT
- PPMT
- PRICE
- PRICEDISC
- PRICEMAT
- PV
- RATE
- RECEIVED
- SLN
- STOCK
- STOCKH
- SYD
- VDB
- XIRR
- XNPV
- YIELD
- YIELDDISC
- YIELDMAT
-
- AVEDEV
- AVERAGE
- AVERAGEA
- AVERAGEIF
- AVERAGEIFS
- BETADIST
- BETAINV
- BINOMDIST
- CHIDIST
- CHIINV
- CHITEST
- CONFIDENCE
- CORREL
- COUNT
- COUNTA
- COUNTBLANK
- COUNTIF
- COUNTIFS
- COVAR
- CRITBINOM
- DEVSQ
- EXPONDIST
- FDIST
- FINV
- FORECAST
- FREQUENCY
- GAMMADIST
- GAMMAINV
- GAMMALN
- GEOMEAN
- HARMEAN
- INTERCEPT
- LARGE
- LINEST
- LOGINV
- LOGNORMDIST
- MAX
- MAXA
- MAXIFS
- MEDIAN
- MIN
- MINA
- MINIFS
- MODE
- NEGBINOMDIST
- NORMDIST
- NORMINV
- NORMSDIST
- NORMSINV
- PERCENTILE
- PERCENTRANK
- PERMUT
- POISSON
- PROB
- QUARTILE
- RANK
- SLOPE
- SMALL
- STANDARDIZE
- STDEV
- STDEVA
- STDEVP
- STDEVPA
- TDIST
- TINV
- TTEST
- VAR
- VARA
- VARP
- VARPA
- WEIBULL
- ZTEST
- ลิขสิทธิ์
SUBSTITUTE
ฟังก์ชั่น SUBSTITUTE จะส่งค่ากลับมาเป็นค่าสตริงที่อักขระที่ระบุของค่าสตริงที่กำหนดให้ถูกแทนที่ด้วยค่าสตริงใหม่
SUBSTITUTE(สตริงต้นทาง, สตริงที่มีอยู่, สตริงใหม่, การเกิดขึ้นซ้ำ)
สตริงต้นทาง: ค่าใดๆ
สตริงที่มีอยู่: ค่าที่จะถูกแทนที่ สตริงที่มีอยู่สามารถประกอบด้วยค่าใดๆ ก็ได้
สตริงใหม่: ค่าที่ใช้เป็นตัวแทนที่ สตริงใหม่สามารถประกอบด้วยค่าใดๆ ก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีความยาวเท่ากับสตริงที่มีอยู่
การเกิดขึ้นซ้ำ: ค่าตัวเลขทางเลือกที่ระบุว่าการเกิดขึ้นซ้ำใดของสตริงที่มีอยู่ภายในสตริงต้นทางที่ควรจะถูกแทนที่ การเกิดขึ้นซ้ำต้องมากกว่าหรือเท่ากับ 1 หรือเว้นว่างไว้ ถ้าการเกิดขึ้นซ้ำมากกว่าจำนวนครั้งที่สตริงที่มีอยู่แสดงภายในสตริงต้นทาง จะไม่มีการแทนที่เกิดขึ้น ถ้าการเกิดขึ้นซ้ำถูกเว้นว่าง การเกิดขึ้นซ้ำทั้งหมดของสตริงที่มีอยู่ภายในสตริงต้นทางจะถูกแทนที่ด้วยสตริงใหม่
หมายเหตุ
คุณสามารถแทนที่อักขระแต่ละตัว ทั้งคำ หรือสตริงของอักขระภายในคำก็ได้
ถ้า REGEX ถูกใช้ในการระบุค่าค้นหาในสตริงที่มีอยู่ จะสามารถใช้กลุ่มบันทึกในสตริงใหม่ได้
ตัวอย่างเช่น |
---|
=SUBSTITUTE("a b c d e f", "b", "B") จะส่งค่ากลับมาเป็น "a B c d e f" =SUBSTITUTE("a a b b b c", "a", "A", 2) จะส่งค่ากลับมาเป็น "a A b b b c" =SUBSTITUTE("a a b b b c", "b", "B") จะส่งค่ากลับมาเป็น "a a B B B c" =SUBSTITUTE("aaabbccc", "bc", "BC", 2) จะส่งค่ากลับมาเป็น "aaabbccc" =SUBSTITUTE(60606, 6, 3) จะส่งค่ากลับมาเป็น "30303" =SUBSTITUTE("example@example.com: Marina Email", REGEX("[A-Z0-9a-z._%+-]+@[A-Za-z0-9.-]+\.[A-Za-z]{2,4}") & REGEX(": *"), "") จะส่งค่ากลับมาเป็น "Marina Email" =SUBSTITUTE("marina@example.com", REGEX("([A-Z0-9a-z._%+-]+)@([A-Za-z0-9.-]+\.[A-Za-z]{2,4})"), "$1") จะส่งค่ากลับมาเป็น "marina" ให้คุณแยกเฉพาะชื่อผู้ใช้โดยใช้กลุ่มบันทึกกลุ่มแรกใน REGEX =SUBSTITUTE("marina@example.com", REGEX("([A-Z0-9a-z._%+-]+)@([A-Za-z0-9.-]+\.[A-Za-z]{2,4})"), "$2") จะส่งค่ากลับมาเป็น "example.com" ให้คุณแยกเฉพาะชื่อโดเมนโดยใช้กลุ่มบันทึกกลุ่มที่สองใน REGEX |