ใช้ปลั๊กอินเอฟเฟ็กต์ใน GarageBand สำหรับ iPad
ปลั๊กอินเอฟเฟ็กต์จะใช้เพื่อกำหนดและปรับคุณภาพเสียงเพลงของคุณในหลากหลายรูปแบบ เสียงที่คุ้นเคยมากมายในเพลงที่ได้รับความนิยมถูกสร้างโดยใช้เอฟเฟ็กต์ โดยมีเอฟเฟ็กต์ต่างๆ อย่างเช่นเอฟเฟ็กต์เสียงก้อง เอฟเฟ็กต์คอมเพรสเซอร์ และเอฟเฟ็กต์การหน่วง คุณสามารถใช้ปลั๊กอินหลายๆ ตัวได้ในหนึ่งแทร็ค และสามารถเปลี่ยนแปลงลำดับที่ส่งผลต่อเสียงได้
ประเภทของเอฟเฟ็กต์
GarageBand มีปลั๊กอินเอฟเฟ็กต์หลากหลายตัวที่คุณสามารถใช้ในแทร็คของเพลงของคุณได้ โดยมีดังต่อไปนี้
Bitcrusher: Bitcrusher สร้างเสียงบิดเบี้ยวโดยการลดอัตราสุ่มและความลึกบิตของสัญญาณ ผลที่ได้คือเสียงดิจิทัล Lo-fi คล้ายกับเสียงเกมวิดีโอหรือดรัมแมชชีนรุ่นเก่า
ตัวบีบอัด: ตัวบีบอัดจะปรับระดับเสียงของเสียงที่เปลี่ยนระดับอย่างฉับพลันให้มีความนุ่มนวล ตัวบีบอัดสามารถเพิ่มความหนักหน่วงและความคมชัดลงบนแทร็คทำให้แทร็คโดดเด่นกว่ามิกซ์ที่เหลือ
การหน่วง: เอฟเฟ็กต์การหน่วงจะวนซ้ำเสียงเหมือนเสียงสะท้อน เอฟเฟ็กต์การหน่วงจะเพิ่มความรู้สึกในเรื่องพื้นที่ให้กับเสียง หรือสร้างสัมผัสว่าเสียงหรือเครื่องดนตรีนั้นอยู่ในห้องขนาดใหญ่หรืออยู่ในถ้ำ
การบิดเสียง: เอฟเฟ็กต์การบิดเสียงและการเร่งเสียงเกินเปลี่ยนโทนเสียงของเสียงต้นฉบับ ทำให้เสียงฟังดู “รก” หรือ “คลุมเครือ”
EQ: EQ (ตัวย่อของ equalization) ช่วยให้คุณเปลี่ยนระดับของความถี่ที่เลือกในเสียง คุณสามารถใช้ EQ สร้างความลึกลับและความเปลี่ยนแปลงให้กับเพลงของคุณได้อย่างน่าทึ่ง
การแปลงสัญญาณ: เอฟเฟ็กต์การกล้ำสัญญาณ เช่น เสียงคอรัส แฟลงเจอร์ และเฟสเซอร์จะเล่นเสียงซ้ำไปพร้อมกับเสียงต้นฉบับ แต่เอฟเฟ็กต์เหล่านี้จะเปลี่ยนหรือปรับเสียงที่เล่นซ้ำในระหว่างการเล่น ผลที่ได้มักจะเป็นเอฟเฟ็กต์ Shimmery หรือ Swirly ในเสียงหรือเครื่องดนตรี
เสียงก้อง: เสียงก้องจะจำลองเสียงสะท้อนตามธรรมชาติของเสียงหนึ่งในพื้นที่ว่างล้อมรอบ เสียงก้องสามารถเพิ่มความคมชัดและการปรากฎให้ัเสียงหรือเครื่องดนตรี เพิ่มบรรยากาศให้กับเสียงหรือจำลองห้องที่แตกต่างกันหรือสิ่งแวดล้อมในการฟังอื่นๆ
เสียงรัว: เสียงรัวคือการเพิ่มหรือลดระดับเสียงในช่วงเวลาปกติ ทำให้เกิดเอฟเฟ็กต์วอบเบิล
Vocal Transformer: Vocal Transformer เปลี่ยนระดับเสียงสูงต่ำและโทนเสียงของเสียงพูดของคุณ
ดูปลั๊กอินสำหรับแทร็ค
คุณสามารถดูปลั๊กอินสำหรับแทร็คได้ทั้งในขณะที่คุณเล่นเครื่องดนตรี หรือขณะที่แทร็คสำหรับเครื่องดนตรีถูกเลือกอยู่ในมุมมองแทร็ค
แตะปุ่มตัวควบคุมแทร็ค
ในแถบควบคุม แล้วแตะ ปลั๊กอินและ EQ
เพิ่มปลั๊กอิน
แตะปุ่มตัวควบคุมแทร็คในแถบควบคุม แล้วแตะ ปลั๊กอินและ EQ จากนั้นแตะ แก้ไข
แตะปุ่มเพิ่มปลั๊กอิน
ในสล็อตปลั๊กอินที่ว่างอยู่ หรือแตะชื่อของปลั๊กอินที่คุณต้องการแทนที่แตะปลั๊กอินในรายการ
คุณไม่สามารถแทนที่ปลั๊กอินคอมเพรสเซอร์และ Visual-EQ ได้ ถ้าคุณต้องการปิดปลั๊กอิน โปรดดู เปิดหรือปิดปลั๊กอิน
เปลี่ยนลำดับของปลั๊กอิน
แตะปุ่มตัวควบคุมแทร็คในแถบควบคุม แล้วแตะ ปลั๊กอินและ EQ จากนั้นแตะ แก้ไข
แตะด้ามจับทางด้านขวาของปลั๊กอิน แล้วลากขึ้นหรือลงไปยังตำแหน่งที่คุณต้องการแล้วจึงปล่อย
เปิดหรือปิดปลั๊กอิน
แตะปุ่มตัวควบคุมแทร็คในแถบควบคุม แล้วแตะ ปลั๊กอินและ EQ
แตะปุ่มเปิด/ปิดของปลั๊กอิน
เพื่อเปิดใช้หรือปิดใช้ปลั๊กอิน
เปลี่ยนการตั้งค่าปลั๊กอิน
แตะปุ่มตัวควบคุมแทร็ค แล้วแตะ ปลั๊กอินและ EQ จากนั้นแตะชื่อของปลั๊กอิน
ลากแถบเลื่อนเพื่อเปลี่ยนแปลงการตั้งค่า
คุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าในขณะเล่นเครื่องดนตรีเพื่อฟังว่าเสียงเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรได้ทันที
เมื่อเสร็จสิ้น ให้แตะที่ชื่อของปลั๊กอินเพื่อปิดการตั้งค่า
ใช้วิชวล EQ
คุณสามารถใช้ปลั๊กอินวิชวล EQ เพื่อปรับเสียงของแทร็คและเพลงให้เหมาะสมได้โดยปรับระดับความถี่สามช่วงหรือสามแถบ ได้แก่ เสียงเบส เสียงกลาง และเสียงแหลม
แตะปุ่มตัวควบคุมแทร็คในแถบควบคุม แล้วแตะ ปลั๊กอินและ EQ จากนั้นแตะ วิชวล EQ
ปฏิบัติตามวิธีใดๆ ต่อไปนี้:
ปรับแถบ EQ: แตะปุ่มแพนที่มีสีของแถบ EQ เพื่อเปิดใช้งานแถบ จากนั้นลากขึ้นหรือลงเพื่อเพิ่มหรือลดระดับของแถบ ลากไปทางซ้ายหรือขวาเพื่อเปลี่ยนความถี่สำหรับแถบนั้น
แตะสองครั้งที่ปุ่มแพนเพื่อย้ายปุ่มกลับไปที่ตำแหน่งเดิม
เพิ่มหรือลดเกนโดยรวม: ลากแถบเลื่อนเกนทางด้านขวาขึ้นหรือลง
ใช้ตัววิเคราะห์: คลิกปุ่มตัววิเคราะห์ จากนั้นเล่นเครื่องดนตรีหรือแถบบนแทร็คที่เลือกไว้
ในขณะที่เล่นเครื่องดนตรีหรือแถบ โค้งความถี่ของแทร็คจะแสดงขึ้นในจอแสดงผล EQ ซึ่งจะแสดงว่าความถี่ใดที่ดังขึ้นหรือเบาลง คุณสามารถปรับแถบ EQ ขณะที่คุณดูโค้งความถี่
คลิกปุ่มตัววิเคราะห์อีกครั้งเพื่อปิด
แตะเสร็จสิ้นเมื่อคุณเสร็จสิ้นแล้ว
เอาปลั๊กอินออก
แตะปุ่มตัวควบคุมแทร็คในแถบควบคุม แล้วแตะ ปลั๊กอินและ EQ จากนั้นแตะ แก้ไข
แตะปุ่มเอาปลั๊กอินออก
จากนั้นแตะปุ่มลบหมายเหตุ: คุณไม่สามารถลบปลั๊กอินคอมเพรสเซอร์และวิชวล EQ ได้
แตะเสร็จสิ้นเมื่อคุณเสร็จสิ้นแล้ว
เปิดใช้งานปลั๊กอินเอฟเฟ็กต์ iOS
ปิด GarageBand
เปิดแอปการตั้งค่า เลื่อนลง จากนั้นแตะ GarageBand
แตะสวิตช์เปิดใช้งานปลั๊กอินเอฟเฟ็กต์ iOS
ปลั๊กอินเอฟเฟ็กต์ iOS จะแสดงในรายการส่วนขยาย Audio Unit เมื่อคุณเพิ่มปลั๊กอินที่แทร็ค