หน้าหลักการบริการทางการเงินเพื่อความยั่งยืนการให้บริการทางการเงินอย่างมีความรับผิดชอบ

การให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย  ตระหนักถึงบทบาทสำคัญในการดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบผ่านการให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ลูกค้าเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกัน

มาตรฐานการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ

ธนาคารได้รวมความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลเข้าไว้ในแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงของธนาคารรวมถึงการพิจารณาด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลเข้าไว้ในกระบวนการประเมินและอนุมัติสินเชื่อ ทั้งยังมุ่งสร้างความแข็งแกร่งให้กับแนวทางในการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ ตลอดจนได้กำหนดกรอบการดำเนินงาน นโยบาย และมาตรฐานเพื่อรวมการประเมินความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล โดยได้รับการสนับสนุนทรัพยากรตามโครงสร้างการควบคุมองค์กรโดยใช้หลักการ Three Lines Model


นโยบายการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ

นโยบายการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ

ธนาคารมีการนำแนวปฏิบัติด้านการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบมาใช้ตั้งแต่ปี 2560 และยังคงพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เพื่อให้สอดคล้องและมุ่งเน้นกับแนวการปฏิบัติที่เป็นเลิศอย่างต่อเนื่อง

นโยบายการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบของธนาคารมีผลบังคับใช้กับลูกค้าสินเชื่อ Wholesale Banking ซึ่งได้แก่ ลูกค้าสินเชื่อทุกรายในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ (Corporate Banking) กลุ่มธุรกิจขนาดกลาง (Commercial Banking) และรวมถึงกิจกรรมทางด้านตลาดทุน โดยได้มีการกำหนดรายละเอียดไว้ในนโยบายสินเชื่อของกลุ่มยูโอบีประเทศไทย เพื่อให้มั่นใจว่ามีการพิจารณาด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลในกระบวนการประเมินและการอนุมัติสินเชื่อ ทั้งนี้ นโยบายดังกล่าวยังได้ระบุถึงบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบอย่างชัดเจนเพื่อให้สามารถนำไปปฏิบัติใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านโครงสร้างการควบคุมโดยใช้หลักการ Three Lines Model ที่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการธนาคารยูโอบี ประเทศไทย

หลักการและข้อห้าม


นโยบายการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบของธนาคารกำหนดให้ลูกค้าต้องดำเนินการดังต่อไปนี้

  • ปฏิบัติตามกฎระเบียบและกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลในประเทศที่ลูกค้าดำเนินธุรกิจอย่างเคร่งครัด
  • มุ่งมั่นดำเนินนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างอย่างยั่งยืนและ/หรือมีกระบวนการในการไม่จัดซื้อจัดจ้างจากแหล่งที่มาที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งได้
  • ใช้หรือกำลังอยู่ในขั้นตอนเตรียมการใช้ระบบบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมเพื่อตอบสนองต่อความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมในการดำเนินการและ/หรือในโครงการต่างๆ 

นอกจากนี้ นโยบายการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบของธนาคารยังได้กำหนดข้อห้ามในการให้สินเชื่อแก่บริษัทดังต่อไปนี้

  • ประกอบธุรกิจหรือมีโครงการที่คุกคามคุณค่าความเป็นสากลที่โดดเด่น (outstanding universal value) หรือเอกลักษณ์เฉพาะของแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก พื้นที่ชุ่มน้ำตามอนุสัญญาแรมซาร์ ป่าที่มีคุณค่าด้านการอนุรักษ์สูง หรืออาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตใกล้สูญพันธ์
  • มีส่วนร่วมในการทารุณสัตว์และการค้าขายสิ่งมีชีวิตใกล้สูญพันธ์ตามที่ได้ระบุไว้ในอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์
  • ไม่มีมาตรการในการบริหารจัดการหรือบรรเทาความเสี่ยงเกี่ยวกับมลพิษทางอากาศ ดิน และน้ำ ซึ่งอาจส่งผลกระทบทางลบต่อระบบนิเวศทางบกและทางทะเล
  • มีส่วนร่วมในการขูดรีดแรงงาน ซึ่งรวมถึง การใช้แรงงานบังคับ แรงงานเด็ก อ้างอิงตามมาตรฐานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ
  • ประกอบธุรกิจที่ละเมิดสิทธิชนพื้นเมือง
  • ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการถางที่ดินโดยการเผาในที่โล่ง 

ทั้งนี้ ข้อห้ามในการให้สินเชื่อเหล่านี้เป็นคำมั่นสัญญาของธนาคารที่ครอบคลุมในหลายมิติ มีผลบังคับใช้กับลูกค้าใหม่และลูกค้าปัจจุบันทุกราย และช่วยสนับสนุนความพยายามของธนาคารในการเสริมสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืนผ่านการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ

กระบวนการประเมินความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล


ภายใต้นโยบายการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ กำหนดให้เจ้าหน้าที่สินเชื่อดำเนินการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะของลูกค้าใหม่และลูกค้าปัจจุบันทุกราย ในระหว่างกระบวนการ onboard ลูกค้าและการทบทวนสินเชื่อประจำปี โดยลูกค้าจะได้รับการประเมินความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลที่มีนัยสำคัญ ตลอดจนขีดความสามารถ ความมุ่งมั่น และผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ทั้งนี้ ธนาคารได้พัฒนารายการประเมินและตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลเพื่อช่วยเจ้าหน้าที่สินเชื่อ ในการระบุ ประเมิน และทบทวนความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล

ในการระบุ วัดผล และบริหารจัดการความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลในพอร์ตโฟลิโอของธนาคารให้ดียิ่งขึ้น ธนาคารได้จัดกลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงทางด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก คือกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง กลาง และต่ำ  ซึ่งการจัดกลุ่มจะพิจารณาจากลักษณะความเสี่ยงที่มีอยู่ รวมถึงความเสี่ยงที่อาจยังคงเหลืออยู่ในการดำเนินกิจการหรือธุรกิจของลูกค้า โดยความเสี่ยงที่อาจยังคงเหลืออยู่จะพิจารณาจากแนวนโยบายและมาตรการในการลดหรือการบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีอยู่นั้นๆ

1. การขออนุมัติสินเชื่อ

ปฏิบัติตามข้อกำหนดตามหลักการและข้อห้ามที่ครอบคลุมหลายมิติของธนาคารยูโอบี ประเทศไทย

ลูกค้าทุกรายได้รับการคัดกรองความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาลที่มีนัยสำคัญ

2. การประเมิน

การตรวจสอบวิเคราะห์สถานะความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาลอย่างรอบด้าน และการประเมินเพิ่มเติมสำหรับลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความอ่อนไหวทางด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล

การแบ่งกลุ่มการจัดอันดับความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล

3. การประเมินเพิ่มเติม

การประเมินเพิ่มเติมสำหรับธุรกรรมที่มีความเสี่ยงสูงทางด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลโดย ESG Champion และทบทวนโดยเจ้าหน้าที่ความยั่งยืนของกลุ่มยูโอบี

ยกระดับให้คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องของธนาคารยูโอบี ประเทศไทย พิจารณาต่อไป หากมีความจำเป็น

กระบวนการการติดตามความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล


ธนาคารมีการติดตามความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลในระดับลูกค้าและระดับพอร์ตโฟลิโอ

การติดตามในระดับลูกค้า

ธนาคารสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าในเชิงรุกและร่วมมือกันเพื่อปรับปรุงการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล โดยธนาคารมีการติดตามการดำเนินงานของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ผ่านการประเมินและการทบทวนข่าวที่เกี่ยวข้องด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลเป็นประจำ ทั้งนี้ กรณีที่ลูกค้ามีเหตุกรณ์ที่เกี่ยวกับด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลที่มีนัยสำคัญ จะได้รับการทบทวนในทันทีเพื่อประเมินว่าความเสี่ยงดังกล่าวได้รับการแก้ไขและบริหารจัดการได้อย่างเหมาะสมหรือไม่

ธนาคารกำหนดให้ลูกค้าแก้ไข หากมีการดำเนินงานที่ไม่สอดคล้องกับนโยบาย ให้สำเร็จในระยะเวลาที่เหมาะสมโดยมีเจ้าหน้าที่สินเชื่อทำหน้าที่ในการติดตามความคืบหน้า อย่างไรก็ตาม หากธนาคารพิจารณาแล้วว่าลูกค้าไม่สามารถหรือไม่มีความต้องการที่จะบริหารจัดการเกี่ยวกับผลกระทบเชิงลบจากการดำเนินธุรกิจของตนอย่างเพียงพอ ธนาคารก็พร้อมที่จะทบทวนหรือประเมินความสัมพันธ์หรือปฏิเสธการทำธุรกรรมกับกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ 

การติดตามในระดับพอร์ตโฟลิโอ

ธนาคารจัดให้มีการรายงานต่อผู้บริหารระดับสูงอย่างสม่ำเสมอเกี่ยวกับสถานะความเสี่ยงต่ออุตสาหกรรมที่มีความอ่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล การดำเนินธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนลูกค้าที่ได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มข้นจากเหตุกรณ์ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล



กระบวนการอนุมัติสินเชื่อด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล


ผู้อนุมัติสินเชื่อมีกระบวนการในการทบทวนคำขอสินเชื่อเมื่อการประเมินทางด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลตามข้อกำหนด โดยผู้อนุมัติสินเชื่อจะอนุมัติคำขอสำหรับกรณีลูกค้าที่มีระดับความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลที่ธนาคารยอมรับได้ ทั้งนี้ อาจมีการส่งธุรกรรมที่มีความเสี่ยงสูงในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความอ่อนไหวไปให้คณะกรรมการบริหารธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เพื่อทำการทบทวนเพิ่มเติม

นโยบายการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบของธนาคารอ้างอิงมาตรฐานและอนุสัญญาสากล เช่น มาตรฐานขององค์กรเจรจาระหว่างประเทศว่าด้วยปาล์มน้ำมันยั่งยืน (Roundtable on Sustainable Palm Oil) องค์การพิทักษ์ป่าไม้ (Forest Stewardship Council) อนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก (World Heritage Convention) แนวปฏิบัติที่เป็นเลิศของอุตสาหกรรมของบรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (International Finance Corporation) และเครื่องมือวิเคราะห์ฝุ่นควันของ ABS (ABS Haze Diagnostic Kit)

ธนาคารตระหนักดีว่า ภาคการเงินมีบทบาทที่สำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและในการตอบสนองต่อความเสี่ยงที่มีนัยสำคัญอันเกิดจากธรรมชาติและการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ดังนั้น ธนาคารจึงได้ทบทวนนโยบายการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบและนโยบายสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมเฉพาะอย่างสม่ำเสมอท่ามกลางการพัฒนาการทางสังคมและความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสียที่มีการเปลี่ยนแปลง

นโยบายสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมเฉพาะ

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมเฉพาะที่มีลักษณะความเสี่ยงสูงทางด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เพื่อเป็นแนวทางในการประเมินลูกค้าสินเชื่อที่จัดอยู่ใน 8 กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความอ่อนไหว

Agriculture (excl Palm Oil) Sector Policy

Agriculture (Palm Oil) Sector Policy

Forestry Sector Policy

Metals and Mining Sector Policy

Defence Sector Policy

Chemical Sector Policy

Energy Sector Policy

Infrastructure Sector Policy

Waste Management Sector Policy

กรอบการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม



เพื่อให้สอดคล้องกับแนวนโยบายธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การดำเนินธุรกิจสถาบันการเงินโดยคำนึงถึงมิติด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ได้กำหนดกรอบการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม โดยได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการธนาคาร ทั้งนี้ กรอบการบริหารจัดการดังกล่าวมุ่งประเด็นหลักไปที่การบริหารจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมีเนื้อหาครอบคลุมการกำกับดูแล นโยบาย และกระบวนการควบคุมที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมในระดับพอร์ตโฟลิโอ ระดับธุรกรรม และระดับคู่สัญญาที่เกี่ยวกับกิจกรรมการให้สินเชื่อและรวมถึงกิจกรรมทางด้านตลาดทุนของธนาคาร



แง่มุมหลักของกรอบการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมของธนาคารยูโอบี ประเทศไทย




การบริหารจัดการความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลในโครงการต่างๆ

การบริหารจัดการความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลในโครงการต่างๆ

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ได้นำหลักการอีเควเตอร์ (Equator Principles หรือ EP) ซึ่งเป็นกรอบการบริหารจัดการความเสี่ยงที่สถาบันการเงินต่างๆ ทั่วโลกใช้เพื่อกำหนด ประเมิน และบริหารจัดการความเสี่ยงทางด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมในโครงการต่างๆ โดยธนาคารมุ่งมั่นดำเนินการตามมาตรฐานสากลในการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะและตรวจติดตามโครงการต่างๆ สอดคล้องกับข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง เช่น  IFC Performance Standards  และแนวปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพและความปลอดภัยของกลุ่มธนาคารโลก

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกรรมตามหลักการอีเควเตอร์ของธนาคารยูโอบี ประเทศไทย

การสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสีย

ธนาคารมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมและมีส่วนร่วมกับภาครัฐ เพื่อร่วมพัฒนาระบบการเงินให้มีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ทั้งยังได้สร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียหลัก ซึ่งรวมถึงลูกค้า พนักงาน นักลงทุน ชุมชน และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าธนาคารสามารถตอบสนองต่อความคาดหวังที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอของผู้มีส่วนได้เสียในกลุ่มต่างๆ และมีความเท่าทันกับการพัฒนาการในกลุ่มอุตสาหกรรมนั้นๆ

การเสริมสร้างขีดความสามารถ

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ให้ความสำคัญยิ่งกับการเสริมสร้างขีดความสามารถด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลให้มีความเข้มแข็ง โดยพนักงานธนาคารทุกคนได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับหลักการ นโยบาย และกระบวนการในการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ และได้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรออนไลน์เกี่ยวกับการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ นอกจากนี้ ธนาคารยังมีการเข้าร่วมการสัมมนาเชิงปฎิบัติการและการประชุมด้านความยั่งยืนเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับแนวปฎิบัติที่เป็นเลิศด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลอีกด้วย

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง